หากพูดถึงการไปเที่ยวเมือง “ปักกิ่ง (Beijng)” หรือที่คนจีนเรียกกันว่า “ เป่ยจิง ” เมืองหลวงสุดยิ่งใหญ่ของจีนแล้ว ไฮไลต์สำคัญของเมืองที่หลายคนนึกถึงคงจะหนีไม่พ้น จตุรัสเทียนอันเหมิน (Tian Anmen) หรือ พระราชต้องห้าม หรือวังกู้กง (Gu Gong, Forbidden City) แต่ยังมีอีกไฮไลต์ที่อยากจะบอกเลยว่าใครที่กำลังจะไปเที่ยวปักกิ่ง ต้องรีบจดไว้ในลิสต์ เพราะที่นี่เองก็เด็ดไม่แพ้กัน
จากความสวยงามของธรรมชาติ แหล่งช้อปปิ้งที่หลากหลาย รวมถึงอาหารอร่อยๆ ทำให้การไปเที่ยวจีนของคนไทยในปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีหลายคนยังคงกังวลเรื่องการเที่ยวในประเทศจีน จากปัญหาอุปสรรคเรื่องของภาษา รวมไปถึงการเดินทางอยู่ การไปเที่ยวจีนกับทัวร์น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีอีกทางเลือกหนึ่ง เราควรเลือกบริษัททัวร์ที่สามารถไว้ใจได้ แนะนำลองดูที่ https://tourkrub.co ศูนย์รวมแพ็คเกจทัวร์ต่างประเทศมีให้เลือกกว่า 1,000 แพ็คเกจ พร้อมเที่ยวทัวร์จีนอย่างสบายใจในราคาสุดคุ้ม ไม่พลาดทุกจุดไฮไลต์ในปักกิ่งครับ
“วัดลามะ”, วัดองค์ชายสี่ หรือ ยงเหอกง (Yonghe Temple) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง ใครที่รู้ภาษาจีนอาจจะสงสัยว่าทำไมที่นี่ถึงเป็นทั้งวัดและวัง (คำว่า “กง” ในภาษาจีนแปลว่า วัง) สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นมาจากวัดแห่งนี้สร้างขึ้นตามพระราชโองการของ คังซีฮ่องเต้ เพื่อใช้เป็นที่ประทับสำหรับพระราชโอรสองค์ที่ 4 ที่ชื่อว่า “หย่งเจิ้น” โดยพระองค์ได้พระราชทานพื้นที่ส่วนหนึ่งของวังแห่งนี้ให้กับลามะ “นิกายหมวกเหลือง” หนึ่งในนิกายย่อยของพระพุทธศาสนานิกายธิเบตเพื่อตั้งเป็นวัด ภายหลังที่พระองค์สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ได้พระราชทานพื้นที่ทั้งหมดของวังให้กับวัด และเปลี่ยนชื่อที่นี่เป็น “วัดลามะ” อย่างที่เราเรียกกันในปัจจุบัน ในสมัยก่อนที่นี่จะมีพระทิเบตมาจำพรรษา แต่ปัจจุบันเริ่มน้อยลง เพราะที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักอีกแห่งของเมืองปักกิ่ง
วัดแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นโบราณสถานที่ผสมผสานวัฒนธรรมทั้ง 4 สายหลักของจีน ได้แก่ ฮั่น มองโกล แมนจู และธิเบตอย่างลงตัว เป็นวัดสำคัญ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่าทางด้านวัฒนธรรมของปักกิ่ง นักท่องเที่ยวที่มาเมืองแห่งนี้ไม่ควรพลาดแวะมาเยือน หากได้มาเราสามารถพบชาวธิเบตรวมทั้งชาวจีนเสื้อสายธิเบตเดินทางเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดแห่งนี้ ได้เห็นถึงศรัทธาอันแรงกล้าในพระพุทธศาสนา และสัมผัสวัฒนธรรมการไหว้พระของชาวธิเบตที่มีหลายขั้นตอน ทั้งการคุกเข่า ก้มตัว และนอนราบโดยที่ไม่สนว่าพื้นนั้นจะ ร้อน เย็น หรือสกปรกแค่ไหน
มาดูกันดีกว่าครับว่า จุดไฮไลต์ที่ ไม่ควรพลาดในวัดลามะแห่งนี้ เมื่อไปเยือนมีอะไรกันบ้าง?
หอระฆัง (A prayer wheel)
หลังจากเดินผ่านซุ้มประตูวัดเข้ามาแล้วแล้ว สิ่งที่เราจะได้ยิน คือ เสียงระฆังที่ดังมาอย่างไม่ขาดสายจากด้านซ้าย ซึ่งเป็นที่ตั้งของหอระฆัง ชาวจีนเชื่อว่าการตีระฆังคือการก่อให้เกิดความหวัง และสิ่งที่หวังไว้ก็จะประสบความสำเร็จด้วย โดยต้องตีทั้งหมด 3 ครั้ง
มหาตำหนักยงเหอกง (The Hall of Harmony and Peace)
ด้านหน้าของวิหารจะมีป้ายชื่อที่เขียนอยู่ทั้งหมด 4 ภาษา คือ จีนกลาง แมนจู มองโกล และธิเบต แสดงให้เห็นถึงความผสมผสานของทั้ง 4 วัฒนธรรมกลมกลืน ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธเจ้าทั้ง 3 ภพ (Three bronze statues of the Buddhas of the Three Ages)
คือ พระพุทธเจ้าปางอดีต ปัจจุบัน และอนาคต และเหล่าพระอรหันต์
ตำหนักฝ่าหลุน
เมื่อเดินเข้ามาด้านในของตำหนักฝ่าหลุน หรือวิหารธรรมจักร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์จงคาปา ผู้สถาปนาพุทธศาสนานิกายทิเบต ด้านหลังของรูปปั้น มีหนึ่งในสมบัติล้ำค่าของที่นี่ คือ ไม้จันทร์หอมที่ถูกแกะสลักเป็นภูเขาพระอรหันต์ 500 รูป สูง 4 เมตร ยาวกว่า 3 เมตร หลายคนรู้จักกันในชื่อ “ภูเขาอรหันต์แกะสลักจากไม้กฤษณา (The Five Hundred Arhat Hill)” มองไกลๆจะเห็นภาพของภูเขาสีเขียวขจีที่เงียบสงบ พร้อมด้วยพระเจดีย์ ศาลาโบราณ ทางเดินอันคดเคี้ยว สะพาน และสายน้ำที่เชื่อมโยงกัน ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นเหล่าพระอรหันต์กระจายอยู่ตามไหล่เขาจำนวนทั้งหมด 500 รูป ถือเป็นงานแกะสลักที่มีความประณีตและงดงามมาก
วิหารว่านฝูเก๋อ (The Pavilion of Ten Thousand Happinesses)
วิหารว่านฝูเก๋อ หรือ วิหารหมื่นสุข เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดของวัดแห่งนี้ ภายในเป็นที่ประดิษฐานสมบัติล้ำค่า และถือเป็นไฮไลต์เด็ดที่สุด โดยเฉพาะ รูปแกะสลักของพระศรีอริยเมตไตรย (Statue of the Maitreya Buddha) พระพุทธรูปแบบธิเบต ปางยืน ที่ถูกแกะสลักจากไม้จันทร์หอมสีขาว ใครที่ได้เห็นเป็นอันต้องตกตะลึงกับความยิ่งใหญ่ของพระพุทธรูป ด้วยความใหญ่โต และสูงถึง 26 เมตร เป็นส่วนที่อยู่ใต้ดิน 8 เมตร และส่วนที่อยู่เหนือพื้นดิน 18 เมตร น้ำหนักรวมกว่า 100 ตัน ทำให้รูปแกะสลักนี้ได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊คว่าเป็น พระไม้แกะสลักจากไม้ต้นเดียวขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อปี ค.ศ. 1979 วิหารแห่งนี้ได้รับการบูรณะซ่อมแซม และพบว่าเนื้อไม้ที่อยู่ส่วนใต้ดินยังคงสมบูรณ์มากแม้จะผ่านกาลเวลามากว่า 200 ปี
สนใจทัวร์ปักกิ่ง เริ่มต้น 12,999 บาท !!
“วัดลามะ” เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีของล้ำค่าทางประวัติศาสตร์หลายชิ้น สถานที่ซึ่งให้เราได้สัมผัสและศึกษาประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่าของจีน การไปเที่ยวเมืองจีนสมัยนี้ไม่น่ากลัวเหมือนอย่างสมัยก่อน อย่างเมืองหลวงปักกิ่ง ปัจจุบันก็มีการพัฒนาจนทัดเทียมกับประเทศสากลอื่นๆ ประเทศจีนจึงเป็นอีกหนึ่งประเทศเพื่อนบ้านที่น่าสนใจไปท่องเที่ยว มีทั้งธรรมชาติที่สวยงาม อากาศเย็นสบาย และในช่วงฤดูหนาวปลายปี เราสามารถเห็นหิมะปกคลุมอาคารบ้านเรือนต่างๆ ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ
หากช่วงปลายปีนี้ใครยังไม่รู้จะไปไหน ลองเปิดใจแล้วมาเที่ยวเมืองจีนกันสักครั้งนะครับ บอกเลยว่าแล้วจะติดใจ
WALK WHERE WORLD 