[รีวิว] King Power Space เลานจ์ใหม่ล่าสุดของ King Power สนามบินสุวรรณภูมิ

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิวเลานจ์ (Lounge) ใหม่ล่าสุดของบริษัท King Power ณ สนามบินสุวรรณภูมิให้ทุกคนชมกันครับ

เชื่อว่าหลายคนอาจจะกำลังตื่นเต้นกับเลานจ์ใหม่ของ King power ซึ่งเปิดให้บริการ ณ สนามบินดอนเมืองกันอยู่ แต่อันที่จริงแล้วเลานจ์ของสนามบินสุวรรณภูมิ ก็มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงการให้บริการแก่สมาชิกเช่นกัน

King Power Lounge โฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิม เปิดให้บริการแก่สมาชิกเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฏาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยย้ายตำแหน่งมาอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามเลานจ์เดิมบริเวณ Concourse A พร้อมกับชื่อใหม่ว่า “King Power Space” ครับ

(เพิ่มเติม : และตอนนี้บริเวณ Concourse E ก็มี King Power Space อีกแห่งเปิดให้บริการด้วย)

มาดูตำแหน่งที่ตั้งเลานจ์ บนแผนที่กันดีกว่า…

ที่มา : http://www.kingpower.com 

เนื่องจากการเดินทางครั้งนี้ผมเดินทางด้วยการบินไทยซึ่งต้องขึ้นเครื่องที่ Gate C1A จึงมาใช้บริการของเลานจ์บริเวณ Concourse A ครับ

วิธีการเดินทาง เมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและสแกนร่างกายแล้ว จะเจอกับปฏิมากรรม “เทวตำนานกวนเกษียรสมุทร (Scene of the Churning of the Milk Ocean)” ให้เลี้ยวซ้ายเดินตรงไปยังทางสี่แยกที่มีศาลาทรงไทยครับ ดูจากป้ายที่ชี้ก็ได้ ให้เดินตรงไปทาง Concourse A ด้านซ้ายมือตามรูปด้านล่างเลย

พอเลี้ยวแล้วจะพบกับ King Power Space ครับ

ถ้ามองเผินๆจะเหมือนกับที่นี่เป็นร้าน Duty Free อีกแห่งหนึ่ง แต่ยังไงต้องมั่นใจตัวเองไว้ครับ ให้เดินตรงเข้าไปเลย จะพบกับทางเข้าของเลานจ์ที่แอบซ่อนอยู่…

เมื่อเจอทางเข้าแล้ว ให้ยื่นบัตรสมาชิกกับพนักงานเพื่อใช้บริการ สำหรับบัตรสมาชิกที่ใช้บริการเลานจ์แห่งนี้ได้จะเป็นประเภท Navy, Scarlet, Onyx และสมาชิกบัตรเครดิตอื่นๆที่มีสิทธิเข้าร่วมครับ (บัตรสมาชิกประเภทที่สูงกว่านี้ให้ไปใช้บริการที่ King Power Atlas Club ซึ่งอยู่ตำแหน่งเลานจ์เก่า)

มาดูบรรยากาศที่นั่งมุมต่างๆกันดีกว่า…

ที่นั่งของเลาจน์ใหม่จะมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งเคาน์เตอร์บาร์ เก้าอี้โซฟายาว และโซฟาเดี่ยว จัดเป็นมุม มุมละ 4 ที่นั่ง ใครอยากนั่งแบบไหนก็นั่งได้ตามสะดวกเลยครับ

มาดูฝั่งของทานเล่นกันบ้างดีกว่าครับ

ที่เคาน์เตอร์กลางจะมีเบเกอรี่ ทั้งเค้กกล้วยหอม ช็อกโกแลต คลับแซนวิชทูน่า และแฮมชีส ถัดมาจะเป็นคุกกี้ มาชเมลโล และผลไม้อีก 2 ชนิดครับ

 

 

มาต่อกันที่อีกเคาน์เตอร์ ตรงส่วนนี้จะมีตู้ติ่มซำ* (บริการเฉพาะช่วงกลางวัน) อาหาร 1 อย่าง ผมมาช่วงค่ำ เลยเป็นข้าวต้มหมูครับ และถัดมาเป็นตู้กดน้ำอัดลมแบบรีฟิล

 

ถัดมาอีกเป็นน้ำสมุนไพร มีน้ำเก๊กฮวย น้ำอัญชัน (อร่อยสดชื่นมาก) และน้ำเปล่าครับ

ถัดมาอีกหน่อยเป็นน้ำเต้าหู้ (อร่อยอีกเช่นกัน) กาแฟ และชาสมุนไพรหลากรส มีทั้งตะไคร้ ขิง ใบหม่อนหญ้าหนวดแมว รางจืด และดอกคำฝอย

 

ดูมุมอาหารครบหมดแล้วก็ได้เวลาตักมาลองทานแล้วครับ

ใกล้ๆกับมุมอาหารจะมีมุมหนังสือ มีหนังสือและนิตยสารวางเรียงยาวเหยียดให้เลือกอ่านฆ่าเวลากันได้ครับ

สรุป : เมื่อเปรียบเทียบกับเลานจ์ธรรมดาแบบเก่าที่ผมเคยรีวิว กับของใหม่ปัจจุบันแล้ว พบว่าอาหารมีไม่ค่อยแตกต่างกับของเดิมสักเท่าไร มีเพิ่มมาตรงส่วนติ่มซำ (ซึ่งตอนที่ผมไปไม่มี 😭) และเครื่องดื่มที่มากชนิดขึ้น แต่เรื่องของบรรยากาศและการตกแต่งนั้น ต้องยอมรับเลยว่าของใหม่ทำได้ดี ดูทันสมัย น่านั่ง และมีที่นั่งบริการเพิ่มขึ้น จะขาดอย่างเดียวก็ตรงห้องน้ำครับ ที่ที่นี่ไม่มีให้บริการด้านใน ลูกค้าจะต้องเดินออกไปใช้ของสนามบิน

 

สำหรับใครกำลังมองหาที่นั่งพักรอเครื่องสบายๆ มีของว่างอร่อยๆให้ทานก่อนเครื่องออก ลองแวะมาที่ “King Power Space” แห่งนี้กันได้นะครับ

วันนี้ผมขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านจนจบนะครับ :]