ก่อนจะถึงเวลาเดินทางไปต่างประเทศ หลายคนมักหาที่นั่งพักผ่อนรอในสนามบินก่อนถึงเวลาเกทขึ้นเครื่องเปิด วันนี้ผมเลยมีอีกหนึ่งสถานที่นั่งคอยมารีวิวให้ทุกคนได้ชมกันครับ สถานที่นั้นคือ “เลาจน์การบินไทย”
ในสนามบินสุวรรณภูมิ มีพื้นที่ให้บริการเลาน์ของการบินไทยอยู่หลายที่ตาม Concourse ต่างๆตามแผนที่ด้านล่างนี้ครับ

ถ้าเป็นห้องรับรองผู้โดยสารชั้นหนึ่งอย่างเดียวจะเรียกว่า Royal First Lounge
ถ้าเป็นห้องรับรองผู้โดยสารชั้นธุรกิจอย่างเดียวจะเรียกว่า Royal Silk Lounge
ถ้าเป็นห้องรับรองทั้งผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจจะเรียกว่า Royal Orchid Lounge โดยมีโซนแยกห้องรับรองจะแยกเป็นสองฝั่งคือฝั่งชั้นหนึ่งกับชั้นธุรกิจครับ
สำหรับใครที่ใช้บัตรเครดิตต่างๆหรือต้องการแลกไมล์เพื่อใช้บริการสามารถตรวจสอบเงื่อนไขได้ที่นี่
ผมที่ได้รับเกียรติจากการบินไทยให้เข้าไปใช้บริการระหว่างนั่งรอเวลาเกตขึ้นเครื่องเปิดเมื่อครั้งจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ณ ห้องรับรองพิเศษ Royal Orchid Lounge โซน Consourse D ชั้น 3 ภายในส่วนของ Business Class ครับ
การเดินทางมาเลาจน์ทำได้โดย เมื่อออกจากตม. จะเจอปฏิมากรรม “กวนเกษียรสมุทร” หรือชื่อเต็มคือ “เทวตำนานกวนเกษียรสมุทร (Scene of the Churning of the Milk Ocean)” ให้เดินมาทางซ้ายมือ ฝ่าดงร้านค้าปลอดภาษีมา ก่อนถึงศาลาไทยจะเจอป้ายชี้บอกทางมาเลาจน์ พร้อมบันไดเลื่อนทางลงครับ
Royal Orchid Lounge แห่งนี้ เป็นห้องรับรองพิเศษสำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของการบินไทย มีพื้นที่ทั้งหมด 2,410 ตารางเมตร สามารถรับรองผู้โดยสารได้สูงสุด 314 คน เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 5.00 – 2.00 น. เนื่องจากผมบินไฟลต์ช่วงดึก ผู้โดยสารชาวต่างชาติจึงนั่งกันอยู่เต็มเลาจน์เลย
ที่มาภาพด้านซ้าย : เว็บไซต์การบินไทย
ภายในห้องรับรองมีการตกแต่งแบบไทยร่วมสมัยที่มีทั้งกลิ่นอายความเป็นไทยผสานกับความเป็นสากลได้อย่างลงตัว ตรงที่นั่งมีแสงสว่างเพียงพอสำหรับอ่านหนังสือ มีที่เสียบปลั๊กสำหรับชาร์จทั้งแบตโทรศัพท์หรือโน้ตบุ๊ค มีจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่คอยบอกเวลาและความเคลื่อนไหวจากเกตว่าเปิดหรือปิดทำการเพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้โดยสารที่รอขึ้นเครื่อง (แต่ไม่มีเสียงประกาศบอกนะครับ เราต้องคอยดูเวลาของเราเองด้วย ถ้าเผลอลืมนี่อาจตกเครื่องได้)
บริเวณตรงกลางของพื้นที่มีเคาน์เตอร์บาร์ ภายในมีบริการอาหารว่างและเครื่องดื่มให้เลือกได้ตามอัธยาศัยมากมาย ทั้งน้ำเปล่า น้ำผลไม้ ชา กาแฟ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่จุดนี้เองจะเป็นจุดที่คึกคักที่สุด เนื่องจากผมมาช่วงดึก ของเลยไม่ค่อยเยอะครับมีแต่พวกทาร์ตกับขนมปังอบ ไก่ทอด และแซนด์วิชเลยไม่ค่อยได้สนใจมากนัก
มาดูกันที่หน้าตู้แช่น้ำดีกว่าว่ามีอะไรให้เลือกหยิบได้บ้าง…
มีเครื่องดื่มให้เลือกเยอะมาก ทั้ง Coke, Coke zero, spite, Schweppes 3 รส น้ำผลไม้ รวมไปถึงเบียร์ก็มีให้เลือกถึงสามยี่ห้อทั้ง ช้าง สิงห์ และ Heineken นอกจากเคาน์เตอร์กลางตรงนี้แล้ว ยังมีมุมเครื่องดื่มอยู่อีกหลายจุดครับ ผู้ใช้บริการสามารถเลือกใช้กันได้ตามสะดวก
พอเริ่มดึกขึ้นมาอีกหน่อย ก็มีแม่บ้านเข็นรถมาตั้งโต๊ะเสริฟบะหมี่รองท้องครับ (มียิ้มให้กล้องด้วย) เขาบอกว่าปกติอาหารจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆแล้วแต่เวลาครับ ใครมาตอนเช้าก็จะเป็นอาหารเช้า เช่น ไส้กรอก แฮม หรือข้าวต้ม ส่วนตอนนี้ดึกแล้วเลยมีแต่อาหารแบบเบาๆ
นอกจากอาหารและเครื่องดื่มที่มีบริการแล้ว จุดรับรองแห่งนี้ยังมีมุมเด็กเล่นให้เด็กๆได้เพลิดเพลินระหว่างรอขึ้นเครื่องบินโดยสาร มีมุมหนังสือพิมพ์และนิตยสารซึ่งมักจะเป็นฉบับใหม่ล่าสุดวางรอการหยิบอ่าน มีพนักงานคอยเติมให้เต็มอยู่เรื่อยๆ มีมุมโทรศัพท์ที่เป็นห้องส่วนตัวสำหรับคุยธุระเร่งด่วน มีมุมอินเตอร์เนตที่มีคอมพิวเตอร์มากมายให้เล่น มีห้องน้ำที่สวยงามทันสมัยระบบกดชักโครกอัตโนมัติ
ที่ผมชื่นชอบอีกอย่างหนึ่งของห้องรับรองแห่งนี้คือ มีพนักงานคุณภาพ ตั้งใจทำงานในหน้าที่ และยิ้มหวานให้กับแขกที่มาใช้บริการทุกคนครับ
เนื่องจากอาหารที่บริการเวลาดึกมีไม่เยอะ เลยเอามาถ่ายรูปได้เท่านี้ครับ
ซูมบะหมี่ไก่มื้อดึกแบบใกล้ๆ
แม้จะเป็นอาหารทานเล่น แต่ก็รับรองได้เลยครับหากใครลองทานต้องติดใจในรสชาติแน่ๆ เพราะครัวการบินไทยขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารอยู่แล้ว หากใครมีโอกาสเดินทางต่างประเทศ และกำลังหาสถานที่นั่งรอเกทเปิด เลานจ์แห่งนี้ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับมาใช้บริการครับ
นอกจากเลาน์แห่งนี้แล้ว ผมยังเคยรีวิวเลาจน์ของ King power ไว้ด้วย สามารถเข้าไปอ่านกันได้นะครับ :]