สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิว King power Lounge ไว้เผื่อเป็นข้อมูล
สำหรับคนที่เดินทางไปต่างประเทศและใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิครับ
***หมายเหตุ : ปัจจุบัน King Power ได้ปรับปรุง Lounge เป็นแบบใหม่ เปิดให้บริการในชื่อ “King Power Space” สามารถติดตามอ่านได้จากบทความ “[รีวิว] King Power Space เลานจ์ใหม่ล่าสุดของ King Power สนามบินสุวรรณภูมิ” ครับ
ผมคิดว่าหลายคนคงจะรู้จัก King power กันไม่มากก็น้อยอยู่แล้ว เลยจะขอเล่าประวัติของบริษัทแบบคร่าวๆครับ King power เป็นบริษัทเอกชนที่ดำเนินกิจการร้านค้าปลอดภาษีเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งแต่ปีพ.ศ.2532 ได้รับสัมปทานการดำเนินกิจการร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินขนาดใหญ่อื่นๆ ทั่วประเทศเป็นเวลา 10 ปี พื้นที่ส่วนหนึ่งที่บริษัทประมูลได้ในสนามบินสุวรรณภูมิ ถูกแบ่งออกมาเพื่อสร้างห้องรับรองให้บริการกับสมาชิกของบริษัทนั่นเอง
มาดูตำแหน่งที่ตั้งของ Lounge ก่อนดีกว่า
ที่มา : http://www.kingpower.com
เมื่อผ่านตม.และจุดสแกนกระเป๋าแล้ว จะเจอกับปฏิมากรรม “กวนเกษียรสมุทร” หรือชื่อเต็มคือ “เทวตำนานกวนเกษียรสมุทร (Scene of the Churning of the Milk Ocean)” ให้เลี้ยวซ้ายเดินตรงไปยังทางสี่แยกที่มีศาลาทรงไทยครับ ดูจากป้ายที่ชี้ก็ได้ครับ ให้เดินตรงไปทาง Concourse A ครับ
เมื่อเจอศาลาทรงไทยให้เลี้ยวซ้ายอีกรอบ จะมองเห็นป้าย Kingpower Lounge ครับ
ยื่นบัตรสมาชิกให้กับพนักงานที่เคาน์เตอร์ได้เลย
บัตร 1 ใบสามารถพาผู้ติดตามเข้าได้อีก 2 คน รวมสมาชิกผู้ถือบัตรด้วยเป็นทั้งหมด 3 คนครับ
ห้องรับรองของ King Power จะมีอยู่สองแบบครับ คือ ห้องสำหรับบัตรสมาชิกแบบธรรมดา และห้องสำหรับบัตรแบบ VIP ซึ่งวันนี้ผมจะมารีวิวห้องรับรองแบบธรรมดา ห้องรับรองสำหรับสมาชิกแบบบัตรธรรมดาจะอยู่ทางด้านขวามือของเคาน์เตอร์ ส่วนแบบ VIP จะอยู่ทางด้านซ้ายของเคาน์เตอร์ครับ
เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับมุมนั่งเล่นและเคาน์เตอร์กลางซึ่งมี อาหาร ของว่าง ขนม และเครื่องดื่มให้บริการ หันมาอีกมุมหนึ่งจะเจอที่นั่งครับ มีทั้งมุมโซฟา เก้าอี้ธรรมดา และห้องเล่นอินเตอร์เนต (จริงๆมีมุมโซฟาพร้อมทีวีด้วยครับ แต่ผมไม่ได้ถ่ายไว้ T-T)
มาดูกันที่อาหารเลยดีกว่า…
ที่เคาน์เตอร์หลักเมนูแรกที่เตะตาผมก็คือ กระปุกขนมครับ มีทั้งคุกกี้ แครกเกอร์ และมาร์ชเมลโล่
ตามด้วยคลับแซนด์วิช วันนี้มีมีแซนด์วิชแฮมชีส และทูน่าแฮมชีส ส่วนขนมเค้กมีสามอย่างครับ คือ เค้กกล้วยหอม ชีสเค้ก และเค้กช็อกโกแลตครับ ถามป้าแม่บ้านมา เขาบอกเมนูที่บริการจะผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
มาที่เคาน์เตอร์น้ำกันบ้างครับ น้ำที่ให้บริการกับลูกค้ามีหลากหลายรูปแบบ ที่เคาน์เตอร์ยาวจะมีบริการชาและกาแฟ โดยกดเลือกประเภทได้จากเครื่องอัตโนมัติ (มี Tiramisu และ Toffee Nut syrup ให้เติมด้วย)
หันมาอีกด้านหนึ่งมีถังน้ำสมุนไพร ทั้งใบเตย เก๊กฮวย และหล่อฮั่งก้วยครับ ใต้ถังกดน้ำมีตู้เย็นเล็กที่แช่น้ำอัดลมกระป๋องไว้อยู่ด้วย
ถัดมาอีกนิดเป็นมุมผลไม้ ผลไม้วันนั้นมีสองอย่างคือมะละกอและสับปะรด และใกล้กันมีถาดขนมพุดดิ้งผลไม้ อันสีเขียวรสเมล่อนอร่อยมากๆ
นอกจากจะมีขนมและของว่างแล้ว บางช่วงเวลาห้องรับรองแห่งนี้ยังมีบริการอาหารให้ทานด้วย ช่วงที่ผมไปมีสปาเกตตี้ไส้กรอกผัดขี้เมาบริการ รสชาติดีทีเดียวครับ
สรุป : หากใครมีแผนท่องเที่ยวต่างประเทศที่ต้องขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ไม่อยากซื้อของหรือไปนั่งรอที่หน้าเกท สามารถมาใช้บริการเลาจน์แห่งนี้ได้นะครับ (ช่วยประหยัดค่าน้ำและขนมไปได้เล็กน้อย) สำหรับใครที่เกทอยูไกลอาจต้องเผื่อเวลาเดินไปขึ้นเครื่องที่เกทประมาณ 10-15 นาทีด้วยนะครับ
เพิ่มเติม : สำหรับใครที่อยากใช้บริการเลาจน์คิงเพาเวอร์แต่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สามารถสมัครบัตรประเภท Navi เพื่อรับส่วนลดพิเศษและใช้บริการเลาจน์ได้ที่ศูนย์คิงเพาเวอร์ ทั้งสาขารางน้ำ ศรีวารี สนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงพัทยาครับ