[รีวิว] ประสบการณ์ “ปีนภูเขาไฟฟูจิ” ครั้งนั้น…ฉันไม่ลืม

เชื่อว่าหลายคนที่เคยไปประเทศญี่ปุ่นน่าจะเคยมีความคิดอยากจะ “ปีนภูเขาไฟฟูจิ” กันดูซักครั้งบ้าง แต่ในใจลึกๆก็อาจจะกังวลเกี่ยวกับความลำบากของตัวเองที่จะต้องปีนป่ายเดินขึ้นเขาไปเพื่อให้ถึงยอด บางคนอาจสงสัยว่าจะมันลำบากมากไหม ร่างกายเราจะฟิตพอปีนไหวหรือเปล่า

ตัวผมเองก็เคยมีคำถามในใจแบบนี้เช่นเดียวกัน วันนี้เลยอยากจะเขียนบทความบอกเล่าประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งผมเคยได้พิชิตยอดภูเขาไฟแห่งนี้ เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับใครหลายๆคนที่มีความสนใจ อยากลองหาประสบการณ์ชีวิตที่แปลกใหม่สำหรับการผจญภัยท่องเที่ยวญี่ปุ่นไปในครั้งหน้าครับ


  “เริ่มต้นดี มีชัย ไปกว่าครึ่ง”


DSCF9502

ก่อนจะไปปีนเขา เรามารู้จัก “ภูเขาไฟฟูจิ” กันสักเล็กน้อยก่อนดีกว่า… ภูเขาไฟฟูจิ หรือ ฟูจิซัง (Mt.Fuji) ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดชิสุโอกะ และยามานาชิ ด้วยความสูงถึง 3,776 เมตร หรือ 12,388 ฟุต จากระดับน้ำทะเล ทำให้ภูเขาไฟแห่งนี้ได้สถิติว่าเป็น “ภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น” ความยิ่งใหญ่ อลังการ ตระการตา และความงามอันทรงเสน่ห์ ทำให้ภูเขาไฟแห่งนี้สร้างแรงบันดาลใจแก่ชาวญี่ปุ่นมาตลอดหลายช่วงศตวรรษ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ.2013 ที่ผ่านมา องค์การ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้ภูเขาไฟแห่งนี้เป็น “มรดกโลกด้านวัฒนธรรม”

บุคคลทั่วไปสามารถมาพิชิตยอดเขาฟูจิ ได้ในช่วงต้นเดือนกรกฏาคม-ปลายสิงหาคมของทุกปี ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่อากาศบนยอดเขาไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 4-5 องศาเซลเซียส หิมะบนยอดเขาละลายจนหมด เราจึงสามารถพบเห็นนักท่องเที่ยวจากหลายสารทิศทั่วทุกมุมโลกเป็นจำนวนมากต่างหลั่งไหลกันมา โดยทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือ “เพื่อพิชิตยอดเขาแห่งนี้”

ฟูจิมีเส้นทางการปีนเขาอยู่ทั้งหมด 4 เส้น คือ Yoshida Trail, Subashiri Trail, Gotemba Trail และ Fujinomiya Trail แต่เส้นทางที่เป็นที่นิยม สะดวก ปลอดภัย และเดินได้ง่ายที่สุด คือ “เส้นทางปีนเขาโยชิดะ (Yoshida Trail)” ระยะทางเดินรวมทั้งหมดประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินรวมกันประมาณ 6-8 ชั่วโมง มีจุดเริ่มต้นการทางที่เมืองคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi)

Untitled
เส้นทางการปีนเขา Yoshida Trail

สามารถศึกษาเส้นทางการปีนเขาทั้งหมดอย่างละเอียดที่ : http://www.fujisan-climb.jp/en/trails/index.html

ฟูจิแบ่งออกเป็นทั้งหมด 10 ชั้น จุดเริ่มต้นการปีนเขาจะอยู่ที่ชั้น 5 (ระดับความสูง 2,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล) แล้วค่อยๆเดินไต่ระดับความชันไปเรื่อยๆจนถึงยอดที่ชั้น 10 (ความสูง 3,776 เมตร )

รู้หรือไม่? : ภูเขาไฟฟูจิทีดูเงียบสงบอย่างเราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้นั้น แท้ที่แล้วยังไม่ได้ดับสนิท! ด้านในของภูเขาไฟที่ชั้นใต้ผิวเปลือกโลกนั้น ยังคงมีหินร้อนหนืดหรือแม็กม่าไหลเวียนวน และสามารถปะทุขึ้นมาเป็นลาวาได้อยู่ มีข้อมูลพบว่าภูเขาไฟฟูจิระเบิดและพ่นลาวาออกมาครั้งล่าสุดในช่วงยุคสมัยเอโดะ (ค.ศ.1707) ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์จัดหมวดหมู่ของภูเขาไฟแห่งนี้ให้เป็นภูเขาไฟที่มีโอกาสเกิดการปะทุต่ำ

ก่อนออกเดินทางผมมีความกังวลเรื่องการปีนเขาอยู่พอสมควร เนื่องจากไม่เคยมีประสบการณ์และทักษะการปีนเขามาก่อนเลยในชีวิต กำลังกายก็ไม่ค่อยได้ออก แถมยังไม่มีอุปกรณ์อะไรสักอย่าง หลังจากที่ใช้เวลาศึกษาข้อมูลในอินเตอร์เนตอยู่นาน สุดท้ายแล้วก็สามารถวางแผนการเดินทางดังนี้ครับ

มาดูแพลนการปีนฟูจิในอุดมคิตของผมกันก่อนดีกว่า…

7 August 2017
7.45 – 10.20 น. Bus From Shinjuku to Mt. 5th Station*
10.30 – 11.30 น. รับชุดเช่าที่ FUJISAN MIHARASHI
12.00 – 18.00 น. Climb Mt.Fuji (Yoshida Trail)
Stay at Mt.Fuji 8th Station : Hon-Hachigome-TOMOEKAN (本八合目トモエ館)*8 August 2017
2.00 น. Depart from Hon-Hachigome-TOMOEKAN
4.00 น. Top of Mt.Fuji
5.00 น. Sunrise and Sigthseeing Around area
7:00 น. ฺBack to Hon-Hachigome-TOMOEKAN (Hotel Include Breakfast)
8:00 น. Depart from Hon-Hachigome-TOMOEKAN
11.00 – 13.00 น. Fuji 5th station (rest, lunch and return goods at FUJISAN MIHARASHI)
13:25-14.10 น. Fuji 5th station to Kawaguchiko Station
Check in at CABIN & LOUNGE HIGHLAND STATION INN*
17:00 – 21.00 น. Onsen at Fujiyama Onsenหมายเหตุ : * ต้องจองล่วงหน้า

วางแพลนเสร็จแล้วต่อมาก็ถึงขั้นการเตรียมตัวครับ

มาดูกันเลยครับว่า ก่อนจะปีนฟูจิต้องเตรียมตัวอะไรกันบ้าง…

สิ่งที่ต้องเตรียมจากเมืองไทย

  1. เลือกวันเวลาที่จะเดินทาง : ควรศึกษาพยากรณ์อากาศล่วงหน้า โดยดูจากเว็บไซต์พยากรณ์อากาศต่างๆ หลีกเลี่ยงวันเดินทางที่อาจมีฝนตก และหลีกเลี่ยงการขึ้นเขาในวันหยุด โดยเฉพาะวันที่ 11 สิงหาคม ซึ่งเป็น “วันแห่งภูเขา (Mountain Day)” วันหยุดราชการของญี่ปุ่นที่สนับสนุนให้คนออกมาปีนเขาครับ (แน่นอนว่าภูเขาที่ว่าก็คือฟูจิเนี่ยแหละ)
  2. จองรถบัส : ผมเลือกจองรถบัสจากเมืองไทยไปก่อนครับ โดยเลือกเส้นทางที่วิ่งตรงจากชินจูกุ – ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทาง ราคารถเที่ยวละประมาณ 2,700 เยน ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 35 นาที
  3. เลือกโรงแรมที่พักระหว่างทางบนภูเขา : มีคำแนะนำจากคนรู้จักชาวญี่ปุ่นให้จองที่พักที่ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 8 เนื่องจากเมื่อเดินขึ้นมาจากจุดเริ่มต้นตอนเที่ยงจะถึงจุดนี้เวลาประมาณหกโมงเย็นพอดี ใช้เวลาอีกไม่นานก็จะเดินขึ้นถึงยอด (หรอ?) จากที่จุดนี้จะเป็นจุดที่ขาลงเราสามารถเดินวกลงมาเจอที่พักเพื่อทานอาหารเช้าได้ด้วย ผมเลือกจองโรงแรมชื่อ Hon-Hachigome-TOMOEKAN (本八合目トモエ館) ครับ (ที่พักในชั้นอื่นๆ ไม่มีทางเดินขาลงที่วกไปถึง ดังนั้นจะต้องรีบตื่นเช้ากว่าตีสอง และเดินค่อนข้างเหนื่อย เพื่อปีนขึ้นไปให้ถึงยอดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น แถมไม่สามารถแวะรับประทานอาหารเช้าได้)
  4. เตรียมชุดปีนเขา : เนื่องจากผมไม่เคยปีนเขามาก่อน จึงไม่มีอุปกรณ์อะไรเกี่ยวกับการปีนเขาทั้งสิ้น หลังจากที่หาข้อมูลทำให้ผมทราบว่า ในญี่ปุ่นมีร้านสำหรับเช่าชุดปีนภูเขาไฟฟูจิอยู่หลายร้าน ผมเลือกจองของบริษัท Lamont ซึ่งข้อดีของบริษัทนี้คือ ชุดและรองเท้าสามารถเลือกสีได้ สามารถจองล่วงหน้าแล้วจ่ายเงินผ่าน paypal แล้วค่อยรับสินค้าวันที่จะปีน ณ ร้านค้าบนฟูจิชั้น 5 ก็ได้ แถมที่นั่นยังมีบริการห้องนั่งพักให้เปลี่ยนชุดฟรีอีกด้วย (แต่ไม่ใช่ห้องแต่งตัวนะเป็นแค่ห้องห้องโล่งๆให้พักผ่อนใส่ๆถอดๆอะไรได้นิดหน่อยเฉยๆ) แถมหลังจากปีนแล้วสามารถคืนชุดเช่าได้เลยที่จุดรับชุดที่รับมา ไม่ต้องขนลงไปให้เหนื่อย)
    • เว็บไซต์จองชุดร้าน Lamont :  https://lamont.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
    • เว็บไซต์จองชุดร้าน Kobeoutdoors : https://mtfujirental.com/ (ภาษาอังกฤษ)

อุปกรณ์ที่อยากแนะนำให้เตรียมพร้อมก่อนการปีนภูเขาไฟฟูจิ

  • เสื้อและกางเกงกันลม (ถ้ากันฝนได้ด้วยจะดีมาก)
  • รองเท้าปีนเขา (แนะนำเป็นรองเท้าที่หุ้มข้อครับ ไม่แนะนำรองเท้าผ้าใบธรรมดา เพราะอาจปวดขาได้)
  • ถุงมือ (แนะนำเอาที่แบบจับหินแล้วไม่ลื่นครับ)
  • Tracking Pole (ไม้ค้ำยันพื้นระหว่างปีนเขา)
  • ถุงกันกรวดเข้ารองเท้า
  • กระเป๋าเป้สะพายสำหรับเดินเขา (หรือแบบผ่อนแรง)
  • ไฟฉายแบบสวมคาดหัว
  • หมวกกันแดด
  • เสื้อลองจอน
  • ออกซิเจนกระป๋อง
  • เจลเพิ่มพลังงาน (แนะนำ 3-4 ซอง)
  • เครื่องดื่มเพิ่มพลังงาน เช่น เกลือแร่ 1 ขวดลิตร
  • กล้องถ่ายรูปและ Power Bank
  • เงิน (สำคัญมาก)

เตรียมการทุกอย่างล่วงหน้าเสร็จแล้วก็ได้เวลาเดินทางกันแล้วครับ…


“A journey of a thousand miles must begin with a single step.”
Lao Tzu
การเดินทางนับพันไมล์เริ่มต้นได้จากก้าวเล็กๆ เพียงหนึ่งก้าว

 


7 August 2017

เริ่มต้นการเดินทางด้วยการเดินทางไปขึ้นรถบัสที่ Shinjuku Expressway Bus Terminal (Busta Shinjuku) สถานีรถโดยสารแห่งใหม่ล่าสุดของชินจูกุ เปิดให้บริการทดแทนของเดิมเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ.2016 ที่ผ่านมา อาคารตั้งอยู่ตรงข้ามทางออก South Exit ของสถานีรถไฟ JR Shinjuku ครับ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA
Busta Shinjuku

 

เมื่อเจอตึกแล้วให้ข้ามถนนเดินขึ้นบันไดเลื่อนจากทางเท้าขึ้นมาที่ชั้น 4 ได้เลย

OLYMPUS DIGITAL CAMERA
เดินข้ามทางม้าลายอันนี้
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
บันไดเลื่อนทางขึ้นชานชาลารถบัส
ที่ชั้นสี่จะเป็นจุดจำหน่ายตั๋วเดินทางโดยรถบัส สำหรับใครที่ไม่ได้จองตั๋วมาล่วงหน้าสามารถซื้อตั๋วรถบัสได้จากที่นี่ครับ บรรยากาศภายในเป็นตามรูปเลย
นั่งรอได้สักพักก็ถึงเวลาที่รถมาครับ
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
ก่อนขึ้นรถต้องแสดงใบจองหรือตั๋วกับคนขับเสียก่อน
ขึ้นมาสำรวจบนรถกันเลยดีกว่าว่า รถบัสด่วนวิ่งตรงเส้นทาง ชินจูกุ – ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 (Shinjuku – Mt.Fuji 5th Station) เที่ยวเวลา 7.45 น. คันนี้จะมีอะไรอยู่ด้านในบ้าง
ที่นั่งของรถแบ่งเป็นสองฝั่ง ด้านหน้าที่นั่งมีเอกสารคำแนะนำความปลอดภัย พร้อมกับวิธีการต่อ Free Wifi บนรถ หลังจากที่คนขึ้นครบหมด ก็ได้เวลาออกเดินทางครับ
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
รถบัสกำลังออกเดินทางแล้ว
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
บรรยากาศระหว่างทาง
ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 35 นาที ก่อนจะถึงเราจะได้ยินเสียงเพลงพร้อมเสียงประกาศบนรถว่าป้ายต่อไปที่จะถึงคือ “ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5”
มาถึงแล้วครับ…
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
ร้านค้าบนภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5

มาเดินสำรวจบรรยากาศแถวนี้กันหน่อยดีกว่า…

ที่จุดนี้จะมีร้านค้าอยู่เป็นจำนวนมาก มีทั้งศาลเจ้า Komitake ร้านขายของฝาก ร้านอาหาร ร้านอุปกรณ์ปีนเขา และมีห้องน้ำให้ใช้บริการ (เสียเงินครั้งละ 200 เยน) อยากจะบอกว่าจริงๆตรงจุดนี้มีห้องน้ำฟรีอยู่ด้วย ให้เดินลงมาเข้าห้องน้ำตรงลานจอดรถครับ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA
ป้ายบอกวันที่ อีกมุมหนึ่งที่นักท่องเที่ยว (โดยเฉพาะคนจีน) นิยมมาถ่ายรูปด้วย

“ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน”

จากนั้นผมก็รีบไปรับชุดปีนเขาที่จองเอาไว้ที่ร้าน FUJISAN MIHARASHI ทันที

ได้ชุดแล้วเราขึ้นบันไดไปชั้นสาม เตรียมตัวเปลี่ยนชุดกันดีกว่า…

OLYMPUS DIGITAL CAMERA
บรรยากาศห้องนั่งพักสำหรับเปลี่ยนชุดชั้น 3
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
กระเป๋าอุปกรณ์เช่าปีนเขา
สิ่งของที่ผมสั่งจองผ่านเว็บไซต์ไปมี รองเท้า ออกซิเจนกระป๋อง ถุงมือ เสื้อพร้อมกางเกงกันลม ถุงกันกรวดและ Tracking Pole รวมค่าเสียหายแล้วประมาณ 12,000 เยนครับ
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
รองเท้าปีนเขา กระป๋องออกซิเจน ถุงมือ ชุดปีนเขากันลม

อยากจะบอกว่าห้องพักชั้นสามของร้านไม่มีห้องแต่งตัวให้นะครับ เป็นแค่ที่นั่งพักสำหรับสวมอะไรนิดๆหน่อยๆ (แต่ก็ยังดีนะที่ฟรี) หากใครต้องการถอดเสื้อหรือกางเกงเพื่อเปลี่ยน อาจต้องยอมเสียเงิน 200 เพื่อเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนครับ หรือถ้ายอมเดินไกลหน่อยก็สามารถไปใช้บริการห้องน้ำที่ลานจอดรถได้ฟรีครับ


มีคำกล่าวไว้ว่า “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” ก่อนจะออกปีนเขาผมเลยขอแวะเติมพลังที่ร้านอาหารเก่าแก่ ชื่อ “Miharashi Kitchen” เปิดให้บริการตั้งแต่ปีค.ศ.1954 ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของร้านก่อนครับ
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
บรรยากาศในร้าน
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
Ramen Noodle Soup ราคา 800 เยน ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าลูกชิ้นปลาบนราเมงเป็นรูปภูเขาไฟฟูจิ 😆
20170807_121455
ที่สาหร่ายราเมงมีพิมพ์รูปภูเขาไฟฟูจิด้วยครับ
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
ข้าวหน้าเนื้อซอสฮายาชิ (Hayashi Rice) 980 เยน ตกแต่งข้าวเป็นรูปภูเขาไฟฟูจิเสียดายที่ข้าวเอียงไปหน่อย
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
หลังจากที่กินเสร็จถึงจะเห็นว่ามีเซอร์ไพร์ซเล็กๆซ่อนบนจานด้วย เขียนว่า “ยินดีต้อนรับสู่ภูเขาไฟฟูจิ” ครับ น่ารักสุดๆ

ระหว่างที่รับประทานข้าวกลางวันอยู่นั้น ก็มีโทรศัพท์จากเมืองไทยโทรมาว่า ขณะนี้ “โนรู”หนึ่งในพายุใต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดของโลกปีนี้ ได้เปลี่ยนทิศจากเดิมที่จะผ่านแค่เกาะตอนใต้ของญี่ปุ่นไปยังโตเกียว และ ณ เวลานี้ใจกลางของพายุกำลังจะมาถึงภูเขาไฟฟูจิในไม่ช้า…

อื้อหืออ พีคมากครับ อุตส่าห์ตั้งใจวางแผนเลือกวันปีนเขาเพื่อเลี่ยงคน เลือกดูวันที่ฟ้าสดใสจากไทยมาอย่างดี ปรากฏมีเรื่องเหนือความคาดหมายมาเสียเฉยๆ พอมองออกไปนอกหน้าต่างจากท้องฟ้าที่เคยสว่างสดใส กลับแปรเปลี่ยนเป็นหมอกหนา และกลายเป็นพายุฝนตกกระหน่ำในที่สุด ผู้คนต่างวิ่งหนีฝนกันอย่างอลหม่าน

20170807_123233
หมอกหนาทึบกำลังค่อยๆแผ่ขยายเข้ามา

โชคดีครับที่บนนี้มีสัญญาณโทรศัพท์เต็มอยู่ ทำให้ Pocket Wifi ที่ผมพกด้วยมาใช้งานได้ (ผมใช้งาน Pocket Wifi ของบริษัท EasyPocketwifi ครับ สัญญาณค่อนข้างดีเลยทีเดียว)

20170810_112718
สัญญาณเต็มทุกขีด

“พี่เจี๊ยบ” พี่คนไทยที่โทรศัพท์ผ่านไลน์มาเตือนผม ได้แนะนำให้ผมเอาชุดปีนเขาที่เช่ามาคืนกับทางร้านไปก่อน รอให้พายุใต้ฝุ่นลูกนี้ผ่านไปจึงค่อยมารับชุดและปีนภูเขาไฟฟูจิอีกครั้ง โดยเขาจะช่วยพูดประสานงานเป็นภาษาญี่ปุ่นกับทางพนักงานร้านและทางโรงแรมบนเขาที่จองเอาไว้ให้ว่าเรามีความจำเป็นต้องเลื่อนแผนการเดินทาง ในวันนี้ผมควรรีบลงจากภูเขาไฟฟูจิก่อน เพราะถึงฝืนปีนไปก็อาจลื่นและเป็นอันตรายกับตัวเองได้ครับ

แต่ก่อนจะยกเลิกอะไรพี่เขาแนะนำว่าให้ลองไปถาม Tourist Information Center ที่อยู่ใกล้ๆกันก่อน เมื่อไปสอบถามแล้วก็ได้ใจความว่าทุกคนก็เพิ่งทราบว่าจะมีพายุเข้ามาวันนี้ ในตอนนี้เขาไม่แนะนำให้ทุกคนปีนเขาครับ

ต้องขอบคุณพี่เจี๊ยบมากๆเลยครับที่ช่วยโทรศัพท์มาเตือนผมไว้ :]

20170807_115122
หมอกลงหนาเต็มไปทั้งพื้นที่ก่อนที่ฝนจะเทกระหน่ำ

หลังจากที่พี่เจี๊ยบช่วยประสานงานจนคืนชุดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมกับเพื่อนจึงรีบวิ่งไปต่อคิวซื้อตั๋วรถบัสกลับลงไปที่เมืองคาวากุจิโกะทันที แต่พบว่ามีคนที่ยกเลิกแพลนแบบเดียวกับผม และต่อคิวเพื่อซื้อตั๋วรถลงไปข้างล่างเป็นจำนวนมาก ตอนที่ผมถึงคิวซื้อตั๋วผมเห็นที่กระจกด้านหน้าเคาน์เตอร์ฺมีแปะประกาศแจ้งยกเลิกรถบัสที่จะวิ่งลงไปข้างล่างหลังรอบเวลา 15.10 น. ด้วย เนื่องจากเหตุพายุโหมกระหน่ำครับ

20170807_133409
ป้ายประกาศยกเลิกรอบรถ
20170807_134013
ราคาตั๋วเที่ยวละ 1,540 เยน

ตอนนี้รอบเวลาของรถทั้งหมดไม่สามารถจองได้ครับ เขาให้คนซื้อตั่วเสร็จยืนต่อคิวเรียงกัน รถมาถึงเมื่อไหร่ก็ให้ขึ้นเท่าที่จะขึ้นได้เลยทันที คนแน่นมากจนถึงหน้ารถเลยครับ ผมกับเพื่อนเลยต้องยืนระหว่างทางเดินของรถไปตามระเบียบ

20170807_141021
บรรยากาศรถบัสกำลังวิ่งฝ่าพายุฝน

ด้วยเหตุนี้แผนการพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิครั้งแรกของผมจึงล่มไม่เป็นท่า ผมเดินทางมาถึงเมืองคาวากุจิโกะประมาณ 15.00 น. เปลี่ยนแผนสลับจากเดิม โดยเดินทางไปที่โรงแรมแคปซูลเลย (จะไปไหนต่อก็ไม่ได้เพราะฝนตกหนัก) จากนั้นจึงใช้เวลาท่องเที่ยวในคาวากุจิโกะก่อนประมาณ 2-3 วัน สะสมแรงให้พร้อมแล้วค่อยไปตะลุยภูเขาไฟฟูจิใหม่

ในตอนนั้นผมได้แต่ตั้งความหวังในใจลึกๆว่า ผมจะได้ปีนภูเขาไฟฟูจินี้ใหม่อีกครั้งในวันที่ฟ้าสดใสครับ 😭😭

To be continued in Part 2

Advertisement

One Reply to “[รีวิว] ประสบการณ์ “ปีนภูเขาไฟฟูจิ” ครั้งนั้น…ฉันไม่ลืม”

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: